ฤดูกาลใดไม่ควรเข้าป่าอุทยาน

ใกล้จะถึงฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวป่าหรืออุทยานแห่งชาติต่างๆ กันอีกแล้วสินะครับ หลายๆ ท่านก็คงกำลังวางแผนลางานเพื่อที่จะออกไปพักผ่อนกายพักผ่อนใจกันอยู่แน่ๆ เลย แต่ท่านทราบกันหรือไม่ครับว่า อุทยานแต่ละแห่งนั้น มีช่วงที่เปิดให้เข้าและช่วงที่ปิดด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ฤดูกาลใดไม่ควรเข้าป่าอุทยาน” กันครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปดูข้อมูลกันสักหน่อยดีกว่าครับ ทำความรู้จักกับ “อุทยาน” อุทยาน คือพื้นที่หรือสถานที่ที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการสงวนรักษา มักเป็นแหล่งสงวนที่ดินทางธรรมชาติ ที่ดินกึ่งธรรมชาติ หรือที่ดินที่สร้างขึ้น ตามประกาศหรืออยู่ในความครอบครองของรัฐเอกราช แม้ประเทศแต่ละแห่งจะนิยามอุทยานแห่งชาติของตนไว้ต่างกัน แต่มีแนวคิดร่วมกัน คือ การสงวนรักษา “ธรรมชาติแบบป่า” ไว้เพื่อคนรุ่นหลัง และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิของท้องถิ่นและประเทศชาติ ฤดูกาลหรือช่วงใดที่ไม่ควรเข้าป่าอุทยาน ส่วนใหญ่แล้ว อุทยานแต่ละแห่งจะมีการประกาศปิดทำการชั่วคราวในช่วงฤดูมรสุมหรือช่วงที่สภาพอากาศฟ้าฝนตกหนัก เพราะอาจเกิดน้ำป่าไหลลาก น้ำท่วมซึ่งจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้นั้นเองครับ 6 ข้อควรปฏิบัติเมื่อเยี่ยมชมอุทยาน 1.ห้ามนำของออกจากป่า ไม่ว่าจะพืชหรือสัตว์ป่าออกจากป่า การเคารพสถานที่ที่เราไป ถือเป็นสิ่งที่ดีและควรปฏิบัติ ธรรมชาติเค้าก็อยู่ของเค้ามานาน และกฎหมายก็มีการเข้มงวดและอนุรักษ์พืชพรรณและสัตว์ป่าไว้มาก ทั้งนี้ข้อห้ามในด้านของการนำของป่าหรือสัตว์ป่าออกจากป่านั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนมีปรับจับแน่นอน  2.ห้ามขีดเขียนหรือสลักทำสัญลักษณ์ใดๆในอุทยานฯ การขีดเขียนหรือทำสัญลักษณ์ระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นบนต้นไม้ พันธุ์พืช ก้อนหินหรือป้ายบอกทางต่างๆอาจทำให้ผู้ตามมาภายหลังสับสนได้ และการขีดเขียนก็เป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติอยู่แล้ว อย่ามือบอนไปเขียนล่ะ 3.ไม่นำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าไปในบริเวณป่าและห้ามทิ้งให้เก็บกลับมาด้วย เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศและเป็นการควบคุมลดปริมาณขยะในอุทยานแห่งชาติอีกด้วยนั้นเองครับ 4.ห้ามส่งเสียงดังรบกวน การไปท่องเที่ยวกับเพื่อน กับคนรักเที่ยวได้เต็มที่ […]

คำว่า ป่าปิด หมายถึงอย่างไร?

หากว่ากันด้วยเรื่องของตำนานและความเชื่อต่างๆ มากมายที่มักจะอยู่คู่กับคนไทยนั้น มีมากมายหลากหลายเรื่องเลยก็ว่าได้ครับ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับ “ป่า” เรียกได้ว่ามีมากมายหลายตำนานให้ได้กล่าวถึงกันเลยครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “คำว่า ป่าปิด หมายถึงอย่างไร?” กันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันเล้ยย!!! ป่าปิด เป็นอย่างไร? ป่าปิด เป็นพื้นที่พิเศษเขตป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมากทั้ง พืชพรรณ สัตว์ป่า ลำธาร น้ำตก ด้วยเหตุนี้ทางอุทยานแห่งชาติจึงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมป่าปิดในระยะทางประมาณ 15 กม.ได้เฉพาะในฤดูร้อน โดยต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯเป็นผู้นำทาง ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้หลงป่าและช่วยดูแลความปลอดภัย              แต่ในอีกความหมายของคำว่า “ป่าปิด” นั้นมีความเชื่อของนายพรานหรือชาวบ้านท้องถิ่นเกี่ยวกับเรื่องของ คืนหรือวันที่ป่าปิดเนื่องจากสิ่งเหนือธรรมชาติไม่ต้องการให้ใครก็ตามเข้าไปภายในป่าที่พวกเราได้ทำการปกปักษ์รักษาอยู่ และไม่ต้องการให้กระทำการอันใดล่วงเกินพวกเค้า มิฉะนั้นก็จะเกิดเรื่องต่างๆ มากมายกับผู้ที่ละเมิดคำเตือนต่างๆ ดั่งเช่น เจอเรื่องลี้ลับ หลงป่า เจอวิญญาณผีสางหรือเจอะเจอกันสัตว์ป่าดุร้าย เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีการทำพิธีเปิดป่าหรือทำการเสี่ยงทายเพื่อขอเข้าสู่ป่าให้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบัน และมีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับที่เกิดขึ้นในวันที่ป่าปิดอีกด้วยครับ 4 เรื่องลี้ลับและข้อห้ามที่ห้ามทำในป่า ●ห้ามชวนใครกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อ เชื่อกันว่าเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นป่าและเขานั้น ไม่ควรที่จะพูดคุยและชักชวนเพื่อนกลับบ้านโดยไม่เอ่ยชื่อเสียงเรียงนามเด็ดขาด เพราะเชื่อกันว่าอาจจะมีคนเดินทางติดตามกลับมาที่บ้านพร้อมกับเราซึ่งก็อาจจะเป็นสิ่งลี้ลับที่เรา  ●ห้ามพูดถึงภูตผีและวิญญาณในตอนกลางค่ำกลางคืน เชื่อกันว่าท่องเที่ยวเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีป่ามีเขานั้นมีสิ่งลึกลับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่มาก รวมไปถึงภูตผีปีศาจและดวงวิญญาณต่างๆอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรานั้นไม่อาจจะมองเห็นได้เมื่อตกกลางคืนสิ่งที่ห้ามทำคือการเล่าเรื่องผีรวมถึงการพูดถึงเรื่องลึกลับเด็ดขาด ที่ห้ามนั้นเป็นเพราะภูตผีและวิญญาณนั้นนอาจจะมานั่งฟังเรื่องที่เราเล่าใกล้ๆเราก็เป็นไปได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดถ้าไม่อยากเจอดี ●ห้ามนอนขวางทางเดินสัญจรในป่า เชื่อกันว่าเป็นทางเดินของสิ่งลึกลับที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ จึงห้ามให้มนุษย์ไปนอนขวางทางเด็ดขาด หากเราหลงไปนอนขวางทางสันจรในป่านั้น […]

5 สิ่งที่ไม่ควรทำขณะอยู่ในป่า

ไม่ว่าที่ไหนๆ ก็ต่างมีกฏเกณฑ์มากกมายให้เราได้ปฏิบัติตามอยู่เสมอๆ ครับ เพราะสิ่งเหล่านั้นจะทำให้ภาพรวมของสถานที่เป็นระเบียบและมีความเรียบร้อยนั้นเองครับ เช่นเดียวกันกับเรื่องของการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็ต้องมีสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้อยู่เช่นกันครับ วันนี้เราจึงอยากมาแชร์ “5 สิ่งที่ไม่ควรทำขณะอยู่ในป่า” กันสักหน่อย เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่เหมาะสมครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับผม 5 สิ่งที่ไม่ควรกระทำขณะอยู่ในป่า ●ห้ามพูดถึงภูตผีและวิญญาณในป่า เพราะเชื่อกันว่าท่องเที่ยวเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีป่ามีเขานั้นมีสิ่งลึกลับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่มาก รวมไปถึงภูตผีปีศาจและดวงวิญญาณต่างๆอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรานั้นไม่อาจจะมองเห็นได้เมื่อตกกลางคืนสิ่งที่ห้ามทำคือการเล่าเรื่องผีรวมถึงการพูดถึงเรื่องลึกลับเด็ดขาด ที่ห้ามนั้นเป็นเพราะภูตผีและวิญญาณนั้นนอาจจะมานั่งฟังเรื่องที่เราเล่าใกล้ๆเราก็เป็นไปได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดถ้าไม่อยากเจอดี เพราะถือว่าเป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ●ไม่ส่งเสียงดังขณะเดินป่า เป็นกฎเหล็กที่เราควรรู้ไว้!! คือ ห้ามส่งเสียงดังขณะเดินป่า นอกจากเปลืองพลังงานตัวเองแล้วยังรบกวนเพื่อนคนอื่นๆ ที่ร่วมทาง รวมถึงรบกวนสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ใกล้คุณด้วย  อีกหนึ่งข้อควรระวังก็คือ ห้ามพูดจาไม่ดี ห้ามลบหลู่เด็ดขาด เพราะตามเส้นทางธรรมชาติ จะมีเจ้าป่าเจ้าเขาคอยดูแล ปกป้องและคุ้มครองพื้นที่ป่านั้นๆ ตามความเชื่อโบราณ ●ไม่ควรแยกเดินไปคนเดียว การเดินป่าเเบบกลุ่มให้ปลอดภัย เราควรเดินแถวเรียงเดี่ยวโดยทิ้งระยะห่างกันพอสมควร และต้องอยู่ในสายตาตลอด  ไม่ควรแยกเดินไปคนเดียว ไม่ว่าช่วงนั้นเป็นกลางวันหรือกลางคืน มิเช่นนั้นคุณจะหลงทางกับเพื่อน ทำให้เกิดอันตรายได้ ●จุดไฟใช้ไฟอย่างระวัง  แต่ถ้าคุณต้องการก่อไฟสำหรับปรุงอาหาร ให้ความอบอุ่นร่างกาย คุณควรสอบถามเจ้าหน้าที่ในอุทยานก่อนว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ กรณีเจ้าหน้าที่อนุญาตเราต้องระมัดระวัง รู้วิธีก่อไฟ จุดไฟ มิเช่นนั้นอาจทำให้เกิดไฟไหม้ป่าหรือแคมปิ้งที่คุณนอน ต้องระวังให้ดีๆ เราทุกคนควรปฏิบัติตามกฎระเบียบ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด ●ห้ามทิ้งขยะและเศษอาหารโดยไม่จำกัดให้เรียบร้อย เพราะขยะ อาทิเช่น ถุงพลาสติก ซองขนม […]

5 อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินป่า

หากว่ากันด้วยเรื่องของการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ นั้น ต้องอาศัยการเตรียมตัวของแต่ละคนเป็นอย่างมาก เพราะหากไม่เตรียมตัวให้ดีก็จะเป็นปัยหาได้ในอนาคตนั้นเองครับ ซึ่งหนึ่งในการท่องเที่ยวที่ต้องการการเตรียมตัวที่เหมาะสมมากๆ นั้นก็คือ “การท่องเที่ยวป่าหรือการเดินป่า” นั้นเองครับ วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “5 อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินป่า” ที่จะเป็นแนวทางที่น่าสนใจกันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับผม การเที่ยวป่า หรือ การเดินป่า เป็นอย่างไร? การเดินป่า เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและสนุกเหมาะกับท่านที่ชื่นชอบธรรมชาติ ที่ต้องอาศัยความพร้อมทั้งอุปกรณ์และความพร้อมของร่างกายที่ต้องพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวป่านั้นเองครับ และอีกชื่อหนึ่งที่เรามักจะคุ้นเคยสำหรับการเดินป่านั้นก็คือคำว่า “ไฮกิ้ง” ซึ่ง เป็นการเดินป่าง่ายๆ แบบเช้าไปเย็นกลับ ไม่มีการพักค้างแรม โดยเส้นทางจะไม่ยากมากนัก ซึ่งอาจเป็นการเดินบนทางเรียบๆ ในป่า หรือเดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ นั้นเองครับ การเตรียมตัวสำหรับการเดินป่า ●เตรียมแผนการเดินทาง  เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อยเลยนะครับสำหรับแผนการเดินทาง เราจะไปถึงสถานที่ที่เราต้องการจะไปได้อย่างไร ถ้าต้องไปด้วยเครื่องบิน รถไฟ หรือรถทัวร์ ก็ควรจัดการเรื่องจองตั๋วให้เรียบร้อย แต่ถ้าเดินทางไปจังหวัดใกล้ๆ ที่มีรถวิ่งทั้งวัน ก็สามารถไปซื้อตั๋วก่อนเดินทางได้ หรือจะให้ดีก็ขับรถไปจะสะดวกที่สุดครับ ●เตรียมร่างกายตนเองให้พร้อม แน่นอนว่าถ้าทุกอย่างพร้อม แต่เจ้าตัวดันตื่นสายจนไปไม่ทันเวลาตามตั๋วที่จองไว้ ทุกอย่างก็จบเห่ครับ ดังนั้นคืนก่อนเดินทางควรนอนแคชต่หัวค่ำ ตื่นเช้าๆมาเช็คความพร้อมอีกครั้ง ทำกิจวัตรต่างๆให้เรียบร้อย เช่น เข้าห้องน้ำ หรือกินกาแฟ เมื่อพร้อมจึงเริ่มออกเดินทาง สำหรับผู้ที่ต้องขับรถเองด้วยระยะทางไกลๆหรือหนทางทุรกันดาน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้านอนไว ้เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายสำหรับรับงานหนักในวันรุ่งขึ้น ●เตรียมสัมภาระและกระเป๋าเดินทางให้พร้อม ควรเตรียมกระเป๋าเดินทางให้เหมาะสมกับปริมาณของที่ต้องเตรียมไป […]

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการเยี่ยมชมอุทยานในไทย

ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เดินทางหรือทำกิจกรรมอะไรก็ล้วนแล้วแต่มีกฎมีเกณฑ์ทั้งสิ้นไม่เว้นแม้แต่เรื่องของการเข้าชมอุทยานแห่งชาตินั้นเองครับ เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงไม่ทราบว่า “สิ่งที่ต้องรู้ก่อนการเยี่ยมชมอุทยานในไทย” นั้นมีอะไรบ้าง ควรปฏิบัติอย่างไร? ในวันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปหาคำตอบกันครับ 8 สิ่งที่ต้องรู้และควรปฏิบัติเมื่อเยี่ยมชมอุทยาน ●ห้ามนำของออกจากป่า ไม่ว่าจะพืชหรือสัตว์ป่าออกจากป่า การเคารพสถานที่ที่เราไป ถือเป็นสิ่งที่ดีและควรปฏิบัติ ธรรมชาติเค้าก็อยู่ของเค้ามานาน และกฎหมายก็มีการเข้มงวดและอนุรักษ์พืชพรรณและสัตว์ป่าไว้มาก ทั้งนี้ข้อห้ามในด้านของการนำของป่าหรือสัตว์ป่าออกจากป่านั้นไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนมีปรับจับแน่นอน  ●ห้ามขีดเขียนหรือสลักทำสัญลักษณ์ใดๆในอุทยานฯ การขีดเขียนหรือทำสัญลักษณ์ระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็นบนต้นไม้ พันธุ์พืช ก้อนหินหรือป้ายบอกทางต่างๆอาจทำให้ผู้ตามมาภายหลังสับสนได้ และการขีดเขียนก็เป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติอยู่แล้ว อย่ามือบอนไปเขียนล่ะ ●ไม่นำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าไปในบริเวณป่าและห้ามทิ้งให้เก็บกลับมาด้วย เพื่อเป็นการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครองดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศและเป็นการควบคุมลดปริมาณขยะในอุทยานแห่งชาติอีกด้วยนั้นเองครับ ●ห้ามส่งเสียงดังรบกวน การไปท่องเที่ยวกับเพื่อน กับคนรักเที่ยวได้เต็มที่ แต่ความเกรงใจและมารยาทก็ต้องมีด้วย บริเวณที่เราเที่ยวนั้นไม่ได้มีเราคนเดียวหรือกลุ่มเรากลุ่ม หรือแม้หากอยู่คนเดียวก็อย่าลืมว่าคุณอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย ดังนั้นพูดคุย ร้องรำทำเพลง กรุณาใช้เสียงอย่างพอดี ไม่ส่งเสียงรบกวนผู้อื่น พักผ่อนกันอย่างพอดีๆ ●ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในเขตอุทยานฯ เครื่องดื่มมึนเมา เหตุที่ห้ามเข้าอุทยานเพราะเจ้าหน้าที่เกรงว่าอาจจะก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทขึ้นได้ จากการขาดสติหลังจากดื่มของมึนเมาและเป็นอันตรายทั้งกับตนเองและบุคคลโดยรอบได้ ●ห้ามล่าสัตว์ป่า แน่นอนเลย กฎเหล็กของการเข้าป่าคือห้ามล่าสัตว์โดยไม่ได้ขออนุญาต เพราะกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าและการอนุรักษ์มีข้อจำกัด หากฝ่าฝืนมีจับปรับแน่นอน สัตว์หลายตัวเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์เสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ได้นั้นเองครับ ●ห้ามให้อาหารสัตว์ การให้อาหารสัตว์เป็นการสร้างหรือเปลี่ยนพฤติกรรมสัตว์ที่อาจทำให้มันชินกับการมีอาหารคอยป้อน รบกสนเส้นทางจราจร ติดนิสัยรออาหารจากคน ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรืออาจทำให้สัตว์มีนิสัยดุร้ายขึ้นได้ ดังนั้นอย่าไปเผลอให้นะ […]